หัตถกรรมไทย

|
ชาติไทย
เป็นชาติที่มีศิลปะวัฒนธรรม
และประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน
ประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปรากฎหลักฐาน โบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่เป็นงานประณีตศิลป์จำนวนมาก ที่ผ่านการคิดค้น สร้างสรรค์ ประดิษฐ์ ขึ้นมา ด้วยความเพียรพยายาม ประณีต วิจิตร บรรจง สืบต่อกันมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี หรืออาจถึงพันปี งานที่จัดว่าเป็นประณีต ศิลป์ของไทย ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ได้แก่งานศิลปะดังต่อไปนี้
1. เครื่องเงินไทย
หมายถึง
เครื่องเงินชนิดที่ทำเป็นเครื่องรูปพรรณ เครื่องถม
และเครื่องลงยาสีที่ทำในประเทศไทย
ทำด้วยโลหะเงินมาตรฐาน ให้มีโลหะอื่น ๆ
เจือปนได้ไม่เกิน ร้อยละ 7.5 ของ น้ำหนัก
ส่วนประกอบของเครื่องเงินไทยต้องแข็งแรง ทนทาน
มีลวดลายที่ชัดเจน เรียบร้อย ในประเทศไทยมีหลักฐานของการใช้โลหะเงินมาตั้งแต่
ก่อนยุคทวาราวดี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ในแต่ละท้องถิ่น ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือ โดยเฉพาะ
เครื่องเงินของล้านนา นับว่ามีชื่อเสียงมาก
กระบวนการผลิตเครื่องเงิน มีขั้นตอนสำคัญ
3 ขั้นตอน คือ
2. เครื่องทอง
เป็นสินแร่ที่มีราคา
และมนุษย์นิยมนำมาใช้เป็นวัตถุในการแลกเปลี่ยน
ความสำคัญของทองเกิดจากการที่มีค่าสูงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยต่าง
ๆ มากนัก มีคตวามสวยงาม
มีสีเหลืองสว่างสดใสปละมีประกายสุกปลั่งเสมอ
ไม่เป็นสนิม
มีความอ่อนเหนียวจนสามารถนำมาตีเป็นแผ่นบางมาก ๆ ขนาด
0.000005 นิ้วได้ และเป็นโลหะที่ไม่ละลายในกรดชนิดใด
แต่จะละลายได้อย่างช้า ๆ
ในสารละลายผสมระหว่างกรดดินประสิวกับกรดเกลือ
3. เครื่องถม
จัดเป็นงานประณีตศิลป์ชนิหนึ่งที่มีมาแต่โบราณ
และสืบทอดต่อมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน พจนานุกรมฉบับ
4. เครื่องมุก การประดับมุก เป็นงานประณีตศิลป์ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ในการตกแต่งวัสดุให้สวยงามของคนไทยมาแต่โบราณ โดยใช้เปลือกหอยมุก ซึ่งมีทั้งหอยมุกทะเล และหอยมุกน้ำจืด นำมาฉลุเป็นลวดลายชิ้นเล็ก ๆ ประดับลงไปบนภาชนะ บานประตู หน้าต่าง ตู้ ฯลฯ โดยใช้รักสีดำ เป็นตัวเชื่อมให้ชิ้นมุก เกาะติดฝังลงไปกับภาชนะ หรือวัสดุ สีขาวแกมชมพูและความแวววาวของหอยมุก จะตัดกับสีดำของรัก ทำให้ภาชนะ เครื่องใช้ หรือวัตถุชิ้นนั้น ๆ สวยงามมาก ภาชนะที่นิยมประดับมุก ได้แก่ พาน กล่อง หีบ เครื่องใช้สำหรับพระสงฆ์ ถาด ฯลฯ
5. ไม้แกะสลัก ไม้ที่นิยมนำมาแกะสลักมากที่สุด คือ ไม้สัก ไม้ตะเคียน ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ ไม้มะค่า ชนชาติไทยมีฝีมือทางด้านการแกะสลักไม้มาแต่โบราณ และมีศิลปวัตถุที่แกะสลักจากไม้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากในภูมิภาคแถบนี้ มีไม้สักและไม้อื่นๆ ที่นำมาแกะสลักได้จำนวนมาก แต่ปัจจุบันได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้หาได้ยากขึ้น ไม้แกะสลักมักนำมาทำเป็นบานประตู หน้าต่าง พระพุทธรูป ลวดลายประดับตกแต่งอาคาร สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ การแกะสลักไม้ มีขั้นตอนที่สำคัญๆ อยู่ 3 ขั้นตอน คือ การออกแบบลวดลาย การแกะสลักลาย และการตกแต่ง
6. เครื่องปั้นดินเผาไทย มนุษย์รู้จักทำเครื่องปั้นดินเผา มาตั้งแต่สมัยหินกลาง ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อ 10,000-7,000 ปี มาแล้ว และทำกันมาจนถึงปัจจุบัน ในทุกภูมิภาคของโลก อาจกล่าวได้ว่า ชาติใด ๆ ก็รู้จักการทำเครื่องปั้นดินเผาทั้งสิ้น ในประเทศไทย มีการทำเครื่องปั้นดินเผาอยู่ทุกภูมิภาค ในสมัยดั้งเดิมเป็นการเผาดินดิบ ต่อมามีการเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบ และพัฒนามาสู่การเขียนลวดลายลักษณะต่าง ๆ จากสีเดียว (เอกรงค์) มาเป็นหลายสี (พหุรงค์) ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งใช้สี 5 สี เรียกว่า ลายเบญจรงค์ และต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ มีการเขียนลายทอง ที่เรียกว่าเบญจรงค์ลายน้ำทอง
7. งาช้างแกะสลัก เป็นงานประณีตศิลป์ที่มีความละเอียด และต้อใช้ฝีมือที่เชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง โดยปกติงาช้างเป็นของมีค่าซึ่งต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี เดิมมีสีขาวนวล เมื่อนานไป อาจเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นถึงน้ำตาล และมีรอยแตกราน อย่างที่เรียกว่า แตกลายงา งาช้างสลักนิยมนำมาทำเป็น พระพุทธรูป กล่อง หรือตลับ ตราสัญลักษณ์ ตุ๊กตา ด้ามหรือปลอกมีด ฯลฯ
8. เรือพระราชพิธี
เป็นงานประณีตศิลป์อีกประเภทหนึ่งของวัฒนธรรมไทย
ซึ่งผูกพันกันแม่น้ำมาตั้งแต่โบราณกาลโดยใช้เรือ
ชนิดต่าง ๆ เรือพระราชพิธี
มักใช้ในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ซึ่งเป็นริ้วขบวนเรือที่จัดขึ้นในการที่พระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินไปในการต่าง ๆ
ทั้งเป็นการส่วนพระองค์ และพระราชพิธี
ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
การจัดชบวนพยุหยาตราทางชลมารคนี้ กล่าวได้ว่า
มีวิวัฒนาการมาจากการจัดกระบวนทัพเรือ
ในยามว่างจึงมีการจัดขบวนทัพเพื่อฝึกซ้อม
มีการตกแต่งเรืออย่างสวยงาม และมีการประโคมดนตรี
ไปในแระบวนเพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานอีกด้วย
ถือเป็นการแสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์
ทางด้านวัฒนธรรมประเพณีอย่างหนึ่งของชาติไทยและพระราชวงศ์
ซึ่งมีอารยธรรมสูงส่งมาแต่โบราณกาล
|








